6 นักเตะที่เคยสวมเสื้อเบอร์ 8 ให้กับลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก

แม้ว่าอาจจะมีนักเตะอย่าง จอห์น อัลดริดจ์ และจิมมี่ เคส เคยมีชื่อเสียงในการใส่เบอร์นี้ แต่มาตรฐานการกำหนดของลีกสูงสุดอังกฤษยังไม่เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่ฤดูกาล 1993-94 โดยก่อนหน้านี้นักเตะ 11 คนแรกจะได้รับเบอร์ 1-11 ในแต่ละเกม จนกระทั่ง 5 นักเตะเหล่านี้ได้รับเบอร์ 8 เป็นการถาวร

เริ่มต้นดังนี้...

พอล สจ็วร์ต (1993-1995)

นักเตะทีมชาติอังกฤษมีข่าวพัวพันกับสองทีมจากแมนเชสเตอร์ในช่วงซัมเมอร์ปี 1992 แต่เป็นแกรม ซูเนสส์ที่ได้ตัวรุกวัย 27 ปีมาร่วมทีม หลังเขาเปลี่ยนตำแหน่งจากศูนย์หน้ามาเล่นกองกลางระหว่างช่วงเวลาที่อยู่สเปอร์ส

สจ็วร์ตเล่นในตำแหน่งดังกล่าว จนกระทั่งช่วงเวลาที่เขาได้ประเดิมสนามในแอนฟิลด์ในเกมยุโรปให้กับหงส์แดง เขาได้เบอร์ 8 ในฤดูกาล 1993-94 อำลาทีมไปซันเดอร์แลนด์ในปี 1996 หลังจากย้ายแบบยืมตัวหลายครั้ง

สแตน คอลลีมอร์ (1995-1997)

เจ้าของสถิติสโมสรในการย้ายทีมจากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ในช่วงซัมเมอร์ปี 1995 ที่ได้รับเบอร์ 8 ก่อนเริ่มต้นฤดูกาลแรกในแอนฟิลด์

นักเตะทีมชาติอังกฤษประเดิมประตูชัยในเกมกับเชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ในเกมเปิดฤดูกาล ที่เขาจับคู่เป็นคู่หูในแดนหน้าของ ร็อบบี ฟาวเลอร์ ได้เป็นอย่างดี โดยทำประตูรวมกันถึง 55 ประตูในฤดูกาล 1995-96 และ 47 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนย้ายไปแอสตัน วิลสันในปี 1997 หลังการก้าวขึ้นมาของไมเคิล โอเว่น

ออยวินด์ ลีออนฮาร์ดเซ่น (1997-1999)

หงส์แดงเซ็นสัญญาคว้าตัวนักเตะทีมชาตินอร์เวย์จากวิมเบิลดันในปี 1997 ก่อนสวมเบอร์ 8 ที่ว่างลงก่อนหน้านี้ในทีมของ รอย อีแวนส์ ที่เขาลงเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอในฤดูกาลแรกที่แอนฟิลด์

อย่างไรก็ตามกองกลางจอมขยันที่มีสายตาในการล่าประตูเป็นส่วนเกินเล็กน้อยในทีมของ เชราร์ อุลลิเยร์ ในเวลาต่อมา และถูกขายไปสเปอร์สในปี 1999 หลังจากลงเล่นเกือบ 100 เกมให้กับหงส์แดงขาดไปเพียงนัดเดียว

เอมิล เฮสกี(2000-2004)

เฮสกีถูกซื้อมาจับคู่กับไมเคิล โอเว่น หลังจากเคยเล่นในทีมชาติอังกฤษ ยู-18 ในฝรั่งเศสมาก่อน โดยอดีตดาวยิงเลสเตอร์ย้ายมาในเดือนมีนาคม ปี 2000 และได้ใส่เบอร์ 8 ประเดิมสนามหลังจากเซ็นสัญญา

เขามีฤดูกาลแรกที่ยอดเยี่ยมจากการทำ 22 ประตูใน 56 เกมที่หงส์แดงคว้าทริปเปิลแชมป์ยูฟา คัพ, ลีก คัพ และเอฟเอ คัพ โดยได้เป็นตัวจริงในนัดชิงทั้ง 3 รายการ แต่สถิติการทำประตูกลับลดลงในปีต่อๆ มา จนอำลาทีมไปอยู่กับเบอร์มิงแฮม ซิตี้ในปี 2004

เฮสกี ทำไป 60 ประตูใน 223 เกมที่ลงเล่นในแอนฟิลด์

สตีเวน เจอร์ราร์ด (2004-2015)

ด้วยเหตุผลที่เบอร์ 8 ว่างลงอีกครั้ง ทำให้ดาวเตะจากอะคาเดมีที่ก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมเพียง 5 ปี หลังจากนั้นกลายเป็นเจ้าของหมายเลขนี้ในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

เจอร์ราร์ดประเดิมสนามให้กับหงส์แดงด้วยเบอร์ 28 ย้อนกลับไปในปี 1998 และคว้าทริปเปิลแชมป์ในปี 2001 ก่อนขึ้นเป็นกัปตันทีมขณะสวมเบอร์ 17 ในปี 20003 ก่อนจะใส่เบอร์ 8 นำทีมคว้าแชมปเปียนส์ลีกที่อิสตันบูลในปีแรกที่สวมเบอร์นี้

ขวัญใจเดอะ ค็อป ใช้เวลา 17 ปีในทีมชุดใหญ่ รวมถึงทำประตูในนัดชิงแชมเปียนส์ลีก ยูฟา คัพ, เอฟเอ คัพ และลีก คัพ รวมถึงคว้าแชมป์เกือบทุกรายการจาก 710 ในทีมชุดใหญ่ ก่อนอำลาไปเล่นในแอลเอ กาแล็กซี ในวัย 35 ปีเมื่อปี 2015

มีเสียงเรียกร้องให้รีไทน์เบอร์ 8 ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้มีทายาทคนใหม่สวมเบอร์นี้แล้ว

นาบี เกอิต้า (2018-)

เกอิต้ากองกลางไดนาโมจะทำให้เสื้อเบอร์ 8 กลับมาอยู่ในสนามให้กับลิเวอร์พูลอีกครั้ง

“มันน่าพอใจ สำหรับผมเป็นอย่างมาก มันเป็นหมายเขาที่สำคัญ และมันแบกประวัติศาสตร์ต่างๆ มากมาย แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น สำหรับผม คือ ตัวเลขนี้จะเพิ่มแรงจูงใจในการเล่นให้กับผม และการเจริญรอยตามเหล่านักเตะที่เคยสวมเสื้อเชิ้ตตัวนี้มาก่อน” เกอิต้ากล่าวถึงการใส่เสื้อเบอร์ 8 หลังรับเสื้อจากเจอร์ราร์ดที่เมลวู้ด

“มันเป็นวันที่เหลือเชื่อสำหรับผม เขามอบเสื้อหมายเลข 8 ให้ผม ตอนที่มันเกิดขึ้น มันเซอร์ไพรส์มาก และผมก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อน”

“ตอนที่เขาเข้ามา ผมมองไปที่เขาและอุทานว่า ‘ว้าว’ เพราะเขาคือ ตำนาน เขาเป็นคนที่ได้รับการยอมรับเสมอ เป็นคนที่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในสนาม เป็นคนที่เป็นที่รักที่นี่”

“ถ้ามีคนเช่นนี้มามอบเสื้อของเขาให้คุณแล้ว มันไม่ใช่แค่เพื่อใส่มันลงเล่นเท่านั้น แต่ต้องพยายาม และทุ่มเทให้มากอย่างที่เขาเคยทำ นั่นคือแรงจูงใจของผม”

เครดิต : http://thailand.liverpoolfc.com/