ใครได้เปรียบเสียเปรียบ? ช่วงเบรคทีมชาติกับโปรแกรมที่เหลือ แมนซิตี้-ลิเวอร์พูล

เปิดโปรแกรมช่วงหลังพักเบรคทีมชาติฟีฟ่า เดย์ ของทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใครได้เปรียบ-เสียเปรียบ หลังแข้งแกนหลักของทั้งสองทีมต่างต้องเดินทางไปรับใช้ชาติกันหลายราย

    หลังจาก ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังลุ้นแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในซีซํ่นนี้อย่างเข้มข้น แต่ต้องมาถูกคั่นกลางในช่วงโปรแกรมทีมชาติตั้งแต่วันที่ 20-26 มีนาคมนี้ 

    แน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงพักเบรคทีมชาติคือสิ่งที่สโมสรต้นสังกัดของนักเตะและบรรดาแฟนบอลต่างกังวลนั่นก็คืออาการบาดเจ็บของแข้งตัวหลักซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการลุ้นแชมป์ของทั้งสองทีมแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

    เราจะพาไปวิเคราะห์นักเตะของทั้งสองทีม และโปรแกรมที่เหลือหลังเบรคทีมชาติ ใครจะได้เปรียบเสียเปรียบมากกว่ากัน?  

 

ใครได้เปรียบเสียเปรียบ? ช่วงเบรคทีมชาติกับโปรแกรมที่เหลือ "แมนซิตี้-ลิเวอร์พูล"

 

    แมนฯ ซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอมรับว่า เขาต้องภาวนาว่าจะไม่แข้งรายใดได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมมาจากการรับใช้ชาติ เนื่องจากปัจจุบันทั้ง แฟร์นานดินโญ่ และ เควิน เดอร์ บรอยน์ สองมิดฟิลด์คนสำคัญยังโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน และกุนซือชาวสเปนก็ได้แต่หวังว่าทั้งสองรายจะฟิตกลับมาโดยเร็ว 

    เช่นเดียวกับ แว็งซ็องต์ กอมปานี และ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ กำลังฟื้นฟูร่างกายต่อไป ส่วน นิโกลัส โอตาเมนดี้ ต้องถอนตัวจากทีมชาติอาร์เจนติน่า หลังมีอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า 

 

ใครได้เปรียบเสียเปรียบ? ช่วงเบรคทีมชาติกับโปรแกรมที่เหลือ "แมนซิตี้-ลิเวอร์พูล"

 

    อย่างไรก็ตาม "เรือใบสีฟ้า" ยังโชคดีที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าตัวเก่งไม่ถูก ลิโอเนล สคาโลนี่ กุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่า เรียกติดทีมไปด้วย เช่นเดียวกับ เอเมอริก ลาปอร์กต์ ที่ไม่ถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งทั้งสคู่ต่างเป็นกำลังสำคัญของทีมในซีซํ่นนี้

    ส่วน ริยาด มาห์เรซ เป็นแข้งที่ต้องเดินทางไกลที่สุดเพื่อกลับไปประเทศ แอลจีเรีย เพื่อเล่นเกมในบ้านทั้งสองนัด

    ขณะที่ ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้รับข่าวดีเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกคนสำคัญได้รับการยกเว้นไม่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอียิปต์เพื่อลงเล่นเกม แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์ รอบคัดเลือก กับ ไนเจอร์ ในวันที่ 22 มีนาคม และอุ่นเครื่องกับ ไนจีเรีย ในวันที่ 26 มีนาคม    

 

ใครได้เปรียบเสียเปรียบ? ช่วงเบรคทีมชาติกับโปรแกรมที่เหลือ "แมนซิตี้-ลิเวอร์พูล"

 

    อย่างไรก็ตามแข้งที่ คล็อปป์ น่าจะกังวลมากที่สุดคือ ซาดิโอ มาเน่ กองหน้าที่กำลังโชว์ฟอร์มร้อนแรงเป็นแข้งที่ต้องเดินทางไกลที่สุดเพื่อกลับไปยัง เซเนกัล ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไม่ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ส่วน นาบี เกอิต้า ไม่ติดทีมชาติกินี 

รายชื่อแข้งของทั้งสองทีมที่ไปรับใช้ชาติ

แมนฯ ซิตี้ - 10 คน
บราซิล : เอแดร์สัน, ดานิโล่, กาเบรียล เชซุส (ปานามา, เช็ค)
อังกฤษ : ราฮีม สเตอร์ลิง, ไคล์ วอร์คเกอร์ (เช็ค, มอนเตเนโกร)
เยอรมัน : อัลคาย กุนโดกัน, เลรอย ซาเน่ (เซอร์เบีย, ฮอลแลนด์)
โปรตุเกส : แบร์นาร์โด้ ซิลบา (ยูเครน, เซอร์เบีย)
แอลจีเรีย : ริยาด มาห์เรซ (แกมเบีย, ตูนีเซีย)
ยูเครน : โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (โปรตุเกส, ลักซ์แซมเบิร์ก)

ลิเวอร์พูล - 13 คน
บราซิล - อลีสซง เบ็คเกอร์, ฟาบินโญ่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ปานามา, เช็ค)
เบลเยียม : ซิมง มินโญเลต์, ดิว็อค โอริกี้ (รัสเซีย, ไซปรัส)
ฮอลแลนด์ : ฟอร์กิล ฟาน ไดค์, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม (เบลารุส, เยอรมัน)
โครเอเชีย : ดายัน ลอฟเรน (อาร์เซอร์ไบจาน)
อังกฤษ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เช็ค, มอนเตเนโกร)
สกอตแลนด์ : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คาซัคสถาน, ซานมาริโน่)
เซเนกัล : ซาดิโอ มาเน่ (มาดากัสการ์, มาลี)
สวิตเซอร์แลนด์ : เซอร์ดาน ชากิรี่ (จอร์เจีย, เดนมาร์ก)

 

ใครได้เปรียบเสียเปรียบ? ช่วงเบรคทีมชาติกับโปรแกรมที่เหลือ "แมนซิตี้-ลิเวอร์พูล"

 

    หากวัดจากโปรแกรมที่เหลืออยู่ "เรือใบสีฟ้า" มีโปรแกรมให้เล่นมากกว่า "หงส์แดง" อย่างน้อยสองเกม หลังจากผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอ คัพ โดยจะเข้าไปพบ ไบรท์ตัน ในวันที่ 6 เมษายน รวมถึงเกมตกค้างกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ซึ่งจะมีการกำหนดวันเวลาอีกครั้ง

    ส่วนทีมของ คล็อปป์ ยังมีเวลาพักมากกว่าทีมของ เป๊ป ถึง 24 ชั่วโมงหลังกลับมาจากพักเบรคทีมชาติ โดยจะกลับมาเจอกับ สเปอร์ส ในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม ส่วน แมนฯ ซิตี้ จะเจอ ฟูแล่ม วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 

โปรแกรม 8 สัปดาห์สุดท้าย

แมนฯ ซิตี้ 
30 มีนาคม : ฟูแล่ม (เยือน)
14 เมาษยน : คริสตัล พาเลซ (เยือน)
20 เมษายน : สเปอร์ส (เหย้า)
24 เมษายน : แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน)
28 เมษายน : เบิร์นลีย์ (เยือน)
4 พฤษภาคม : เลสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า)
12 พฤษภาคม : ไบรท์ตัน (เยือน)
รอยืนยัน : คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (เหย้า)

ลิเวอร์พูล 
31 มีนาคม : สเปอร์ส (เหย้า)
5 เมษายน : เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)
14 เมษายน : เชลซี (เหย้า)
21 เมษายน : คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (เยือน)
26 เมษายน : ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ (เหย้า)
4 พฤษภาคม : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน)
12 พฤษภาคม : วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า)

 

ขอขอบคุณ : https://www.siamsport.co.th/

 

 

 

เปิดโปรแกรมช่วงหลังพักเบรคทีมชาติฟีฟ่า เดย์ ของทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใครได้เปรียบ-เสียเปรียบ หลังแข้งแกนหลักของทั้งสองทีมต่างต้องเดินทางไปรับใช้ชาติกันหลายราย