เกลียดเมื่อแรกเจอ

Loading...


ในฐานะนักเตะ แอนดี้ โคล คือสุดยอดกองหน้าแห่งพรีเมียร์ลีกตัวจริง ตอนอายุ 23 เขาอยู่กับนิวคาสเซิล ยิงไป 34 ลูกในลีก และ คว้าดาวซัลโวไปครองอย่างยิ่งใหญ่ ฟอร์มร้ายกาจขนาดนี้ ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่รอช้า รีบซื้อโคลมาครองทันทีในเดือนมกราคม 1995 ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ บวกกับ คีธ จิลเลสพี ซึ่งทำให้แอนดี้ โคลเป็นนักเตะอังกฤษ ที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ณ เวลานั้น

เรื่องฝีเท้าไม่มีใครสงสัย เขารวดเร็ว ยืนตำแหน่งดี และจบสกอร์ได้ในระดับที่น่าพอใจ ถือว่ามีทุกอย่างที่กองหน้าควรจะมีอย่างไรก็ตาม ปัญหาอยู่ที่นิสัยส่วนตัวของเขา โคลเป็นคนบุคลิกเข้าถึงยาก หงุดหงิดง่าย ชอบเก็บตัว ให้ความรู้สึกเหมือนหมาป่าเดียวดาย

สาเหตุที่เควิน คีแกน ขายโคลให้อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็เพราะเขามองว่าโคล คือกองหน้าที่จบสกอร์เป็นอย่างเดียว เขาไม่สามารถดึงคนอื่นให้เล่นดีไปพร้อมๆกันได้ จากนิวคาสเซิล มาอยู่ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นิสัยของโคลก็ไม่เปลี่ยน นั่นคือเขาไม่สุงสิงกับใคร ไม่แปลก ที่จะมีคนตั้งคำถามกันว่า ทำไมโคล ถึงดูเก็บตัวขนาดนี้นะ?

 

 

อย่างไรก็ตามในปี 1998 หลังการย้ายมาของนักเตะชาวตรินิแดด ที่ชื่อ ดไวท์ ยอร์ค ทำให้ผู้คนได้เห็นมุมที่อ่อนโยนของแอนดี้ โคล ที่ไม่ค่อยสนิทกับใคร สนิทกับยอร์คอย่างรวดเร็ว เขาได้เชิญยอร์คไปที่บ้านเพื่อทานอาหารเย็นร่วมกัน นอกจากนั้น ยังช่วยยอร์คปรับตัวในการใช้ชีวิตที่แมนเชสเตอร์

ทั้งคู่สนิทกัน เรียกได้ว่าตัวติดกัน แม้กระทั่งตอนซื้อรถเมอร์ซีเดสสีม่วงสุดสวย ทั้งคู่ยังเลือกที่จะเอาทะเบียนรถเป็นเลขใกล้ๆกัน หลายคนงง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คนอย่างโคลเนี่ยนะ จะสนิทกับใครจริงจัง

"ผมจำได้ ตอนผมย้ายมาใหม่ๆ ผมรู้สึกโดดเดี่ยวมาก มีความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นฤาษีในถ้ำ อะไรแบบนั้นเลย" โคลเผย

"ผมเลยไม่อยากให้ใครต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ดังนั้นผมเลยคิดว่า อยากจะช่วยให้เขาปรับตัวได้ที่นี่"

การสนิทสนมกันของ โคล กับ ยอร์ค โดยไม่ทันรู้ตัว มันทำให้ จังหวะเกมรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดทริปเปิ้ลแชมป์
มีความร้ายกาจขึ้นด้วย

"เราไม่เคยซ้อมจังหวะกันแบบจริงจังหรอก" โคลเผย "แต่พอเราเล่นด้วยกัน มันรู้สึกเหมือนว่า เจอผู้หญิงพิเศษที่คุณหลงรักทันที ทุกอย่างมันใช่ไปหมด เราไม่เคยขัดแย้ง ไม่เคยทะเลาะกันเลย"

"เวลาผมไม่พอใจเขาหรือเขาไม่พอใจผม เราทั้งคู่จะมองหน้ากัน แล้วก็พูดแค่ว่า'โอเค'จากนั้นก็ปล่อยทุกอย่างให้มันผ่านไป"

หนึ่งประตูที่น่าจดจำของทั้งคู่ เกิดขึ้นในสนามคัมป์นู ในเกมกับบาร์เซโลน่า กับการประสานงานสุดมหัศจรรย์ ยอร์ค ปล่อยบอลลอดขา ไปถึงโคล โคลชิ่งกลับมาให้ยอร์ค ยอร์คจ่ายคืนให้โคล ก่อนโคลจะจบสกอร์แบบเฉียบขาด ซึ่งกองหลังของทีมระดับโลกอย่างบาร์เซโลน่า ได้แต่ยืนมึนงงไปหมด ไม่รู้จะป้องกันใคร

ทีมเวิร์ค อันแข็งแกร่งของทั้งสองคน ทำให้แมนฯยูไนเต็ด กลายเป็นทีมไร้เทียมทาน มีคำกล่าวว่า หยุดโคล กับ ยอร์ค ก็หยุดยูไนเต็ดได้ แต่พอลงสนามจริงๆ ก็ไม่เห็นมีใครหยุดได้เสียที

หลังจากที่เห็นโคลกับ ยอร์คสนิทกัน เพื่อนร่วมทีมจึงเห็นว่า จริงๆโคล ก็ไม่ใช่คนไร้มนุษยสัมพันธ์อะไรขนาดนั้น เพียงแต่เขาอาจจะดูเงียบๆ ไม่ได้ทำตัวเป็นซูเปอร์สตาร์แค่นั้นเอง จริงๆโคลก็พร้อมสร้างมิตรภาพกับทุกคนนั่นแหละ

 

 

อย่างไรก็ตาม มีนักเตะอยู่คนหนึ่งที่โคล ทำใจอยู่ใกล้ไม่ได้ เขาไม่มีวันสร้างมิตรภาพกับคนๆนี้ได้ เขาคนนั้นคือ เท็ดดี้ เชอริงแฮม เท็ดดี้คือสตาร์ของทีมชาติอังกฤษ เป็นดาวซัลโว 4 สมัยซ้อนของสโมสรทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ หลังจากเอริค คันโตน่า ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 1997 ทีมปีศาจแดง ซื้อ "เท็ดดี้" เข้ามาสู่ทีม ในราคา 3.5 ล้านปอนด์

สำหรับแอนดี้ โคล มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดอย่างมาก เพราะ นี่เป็นนักเตะที่เขาไม่ชอบหน้าจริงๆ แต่จำเป็นต้องมาเล่นร่วมกัน ต้องมาซ้อมด้วยกันทุกวัน ซึ่งเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ต้องทนมันไป โคลพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยู่ใกล้กัน จะคุยกันแค่ตอนที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น

ครั้งหนึ่งในเกมกระชับมิตรที่เมืองมิลาน เชอริงแฮม พูดแนะนำบางอย่างกับโคลในสนาม ซึ่งโคลก็ไม่ชอบ เหมือนว่าจะพูดทำไม

"ฉันแค่ต้องการจะช่วยนายนะ" เชอริงแฮมพูด

"มึงไม่ต้องมาช่วยกู ไอ้เวร"

ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นแบบนี้ คือต่างใช้ชีวิตกันไป ไม่ยุ่ง ไม่สุงสิง ไม่คุยอะไรกันทั้งสิ้น

ด้วยความที่กลัวทีมจะแตก แกรี่ พัลลิสเตอร์ หนึ่งในนักเตะอาวุโสของทีม จึงเรียกโคลมาคุยด้วยแล้วบอกว่า "ฉันรู้ว่านายไม่ชอบเท็ดดี้ แต่ยังไงก็เล่นร่วมกันให้ได้นะ"

ซึ่งก็น่าทึ่งที่ ในสนาม โคล กับ เชอริงแฮม แสดงความเป็นมืออาชีพมาก ทั้งคู่จ่ายบอลให้กันถ้าอีกฝ่ายอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า ขณะที่เวลาที่ใครยิงได้ อีกคนก็ต้องเข้ามาดีใจด้วย เพื่อรักษาทีมเวิร์ค

แต่แน่นอนไม่มีการคุยกันส่วนตัว ถึงตรงนี้ หลายคนก็สงสัย ว่า 2 คนนี้ ไปเกลียดกันตอนไหนนะ?

 

 

หลังจากผ่านไป 15 ปี แอนดี้ โคล ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก ถึงสาเหตุที่แท้จริง เขาเปิดเผยว่าทำไมถึงเกลียดเชอริงแฮมขนาดนี้ ชนิดที่อยู่ห่างๆกันไว้จะดีที่สุด

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น ในช่วงสั้นๆไม่ถึง 1 นาทีเท่านั้น ต้นปี 1995 ตอนที่แอนดี้ โคล เซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดใหม่ๆ เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก ในเกมกับอุรุกวัย เชอริงแฮม เกมนั้นลงสนามเป็นตัวจริง หลังจากผ่านไป 70 นาที ก็โดนเปลี่ยนออก และเป็นแอนดี้ โคล เตรียมลงแทน

นี่คือเกมที่มีความหมายที่สุดในชีวิตของโคล มันเป็นความภูมิใจสูงสุด จากเด็กที่เดินสายไปคัดตัวกับทีมต่างๆ การไต่เต้ามารับใช้ชาติได้ มันยิ่งกว่าความฝัน เกมนั้นคุณพ่อ คุณแม่ ของโคล มาชมเกมในสนาม เพื่อรอดูวินาทีแห่งความสำเร็จของลูกชาย

"คน 6 หมื่นคนทั่วเวมบลีย์ รอดูผมลงเล่น เชอริงแฮม เดินเปลี่ยนตัวออกมา สิ่งที่ผมคิดคือ เขาจะบอกสั้นๆว่า 'โชคดี โคลลี่ย์' อะไรแบบนั้น"

"ผมพร้อมที่จะจับมือกับเขาแล้ว แต่สุดท้ายเขาเมินใส่ผม เขาจงใจไม่จับมือผม"

สองคนนี้ ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ไม่เคยมีประเด็นอะไรมาก่อน ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเชอริงแฮม จงใจทำแบบนั้น เขาอาจจะเหนื่อย หรือหงุดหงิดกับฟอร์มในวันนั้น ไม่มีใครรู้

"เขาจงใจฉีกหน้าผมต่อหน้าครอบครัวผม ต่อหน้าคนทั้งสนาม ผมอับอาย ผมสับสน นี่คือเกมแรกในทีมชาติของผม แต่เขาทำแบบนี้หรือ?"

"ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็รู้ว่า เชอริงแฮมกับผม เราไม่มีวันเข้ากันได้"

------------------------------------------

จากจุดเริ่มต้นในวันนั้น กลายเป็นต้นเหตุของความบาดหมางของทั้งคู่

แม้ทั้งโคล และเชอริงแฮม จะอยู่ในทีมเดียวกัน แถมช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทริปเปิ้ลแชมป์ แต่ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย

ช่วงเวลาไม่กี่วินาที ที่เชอริงแฮมไม่ยอมจับมือ คงไม่มีใครคิดว่า มันจากฝังรากลึกยาวนานขนาดนี้

------------------------------------------

และนี่คือตัวอย่างดีที่สุด ของคำว่า First Impression หรือ ความรู้สึกแรกพบ

การเจอกันครั้งแรก จะเป็นสิ่งที่ฝังใจลงไปในความรู้สึกของอีกฝ่าย

นิสัยจริงๆเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ความรู้สึกที่เจอกันครั้งแรก มันจะทำให้เราถูกมองแบบนั้นในสายตาเขาไปตลอด

ถ้าหากเขาประทับใจ จะสานต่ออะไรก็ง่าย ความสัมพันธ์ก็สิทธิพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ

แต่ถ้าในครั้งแรก เจอกันแล้วไม่ถูกชะตา เชื่อเถอะ จะทำอะไรก็ยากไปหมด และกว่าจะทำให้เขาเปลี่ยนความรู้สึกได้มันก็คงนานมาก หรืออาจไม่มีวันทำได้เลย

ดังนั้น การเจอใครครั้งแรก เราอาจต้องระมัดระวังตัวให้มาก ต้องคิดเยอะๆก่อนทำอะไร รอบคอบเข้าไว้

ถ้าหากทำให้เขารู้สึก รักแรกพบไม่ได้

ก็อย่าทำให้เขา เกลียดแรกพบ ก็แล้วกัน

#Cole #Sheringham

 

 

 

ขอขอบคุณ : วิเคราะห์บอลจริงจัง





ในฐานะนักเตะ แอนดี้ โคล คือสุดยอดกองหน้าแห่งพรีเมียร์ลีกตัวจริง ตอนอายุ 23 เขาอยู่กับนิวคาสเซิล ยิงไป 34 ลูกในลีก และ คว้าดาวซัลโวไปครองอย่างยิ่งใหญ่